วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

สโนไวท์


           กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีเจ้าหญิงแสนสวยผู้น่ารักนามว่า สโนว์ไวท์ ผู้อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงของเธอ ราชินีผู้งดงามแต่ไร้สาระ

           ราชินีไม่อยากให้มีใครผู้ใดมางดงามกว่าตน นางจึงให้สโนว์ไวท์ใส่ผ้าขี้ริ้ว และให้นางทำกับข้าว, ปัดกวาดเช็ดถู และตักน้ำจากบ่อ เสมือนกับนางเป็นคนรับใช้

           แต่ละวัน ราชินีจะเฝ้าคอยถามวิญญาณของกระจกวิเศษว่า "กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิด ใครงามเลิศในปฐพี?"

           และทุกๆ วัน กระจกก็จะตอบว่า "ท่านสิคือผู้ที่งามเลิศในปฐพี"

           แต่วันหนึ่งกระจกก็บอกว่า "แต่ช้าก่อน สาวใช้แสนน่ารักที่ข้าเห็นนั้น อนิจจาดูนางจะงดงามกว่าท่านนะ"



            "อนิจจา น่าสงสารนางจริงๆ!" ราชินีร้องอย่างโกรธจัด "เอ๋ยชื่อนางมา"
            "ริมฝีปากสีแดง ดั่งกุหลาบ, เส้นผมดำเงา ดั่งไม้มะเกลือ, ผิวกายขาว ดั่งหิมะ..." "สโนว์ไวท!" ราชินีอ้าปากค้าง

            ขณะเดียวกัน สโนว์ไวท์อยู่ที่ลานบ้านกำลังขัดถูขั้นบันได เมื่อเธอเอนพิงบ่อน้ำเพื่อตักน้ำเพิ่ม เธอก็ร้องเพลงให้กับนกพิราบแถวๆ นั้นฟัง เธอบอกกับพวกมันว่าบ่อน้ำนั้นเป็นบ่อน้ำแห่งอธิษฐาน



            แล้วสโนไวท์ก็มองลงไปในบ่อน้ำพร้อมกับอธิษฐาน-ขอให้นางพบกับรักแท้

           ทันใดนั้น เธอก็เห็นเงาสะท้อนของหนุ่มรูปงามผู้หนึ่ง เธอมองขึ้นและเห็นเจ้าชายผู้หล่อเหลา

           "โอ้!" เธอร้อง และวิ่งเข้าไปในปราสาท

           เจ้าชายได้ยินเสียงร้องเพลง และได้พบกับสโนว์ไวท์ เขาได้เพียรพยายามค้นหาผู้ที่เขาสามารถจะรักได้ และเขาก็พบกับเธอ


             "ข้าทำให้เจ้ากลัวเหรอ?" ชายหนุ่มเรียก
             "ช้าก่อน-ได้โปรดอย่าวิ่งหนีไปไหน" เข้าเริ่มร้องเพลงให้กับเธอฟัง

              สโนว์ไวท์ค่อยๆ เดินออกมาที่ระเบียงเล็กๆ เพื่อฟัง ด้วยหัวใจของนางเต้นอย่างแรง ความฝันของเธอเป็นจริงแล้ว! เธอจูบนกพิราบที่บินลงไปให้จูบเธอกับชายแปลกหน้า สโนว์ไวท์ไม่ได้รู้เลยว่าราชินีกำลังดูอยู่

             เมื่อราชินีได้เห็นชายหนุ่ม และได้ยินคำพูดพร่ำถึงความรักที่มีต่อสโนว์ไวท์ นางรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ นางงตัดสินใจที่จะกำจัดสโนว์ไวท์เสีย ครั้งเดียวและตลอดไป






            "ข้าจะต้องหาสโนว์ไวท์ด้วยตนเอง" นางผสมยาเสน่ห์หลายสูตรเข้าด้วยกันเพื่อเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นหญิงชราผู้น่าเกลียด



            ตอนนี้เริ่มเวทมนตร์คาถามของท่านได้แล้ว!"

            เสียงของราชินีเปลี่ยนเป็นหัวเราะเสียงดังแหลม ผมของนางกลายเป็นสีขาว มืออันงดงามของนางหดเป็นเหมือนกรงเล็บ และใบหน้าของนางก็มีริ้วรอยเหี่ยวย่นและหูดเล็กๆ ขึ้นเต็มไปหมด

            "ฮา ฮา ฮา!" นางหัวเราะเสียงดังแหลม" ช่างเป็นการปลอมตัวที่สมบูรณ์แบบจริงๆ!"

            นางเดินกะโผลกกะเผลกไปที่หนังสือเวทมนตร์คาถามของนางแล้วเลือกคำสาป "โอม! แอ๊ปเปิ้ลพิษ! หลับตา!" นางหัวเราะเสียงดังแหลม



            "แต่ช้าก่อน-มันอาจจะมียาถอนพิษก็ได้ ไม่ควรจะมองข้ามอะไรไป โอ! อยู่ที่นี่เอง" นางร้อง "เหยื่อของการหลับตายจะฟื้นคืนสติได้ต่อเมื่อได้รับจูบแรกของรักแท้เท่านั้น จูบแรกของรักแท้เหรอ? เชอะ! ไม่มีอะไรน่ากลัวเลย!"

            หญิงแก่ผู้น่าเกลียดจุ่มแอ๊ปเปิ้ลลงไปในยาพิษที่ต้มไว้ นางดึงผลไม้สีแดงที่เปล่งประกายออกมา และสอดเข้าไปในตะกร้า

            ในกระท่อม สโนว์ไวท์และคนแคระทั้งเจ็ดกำลังเลี้ยงฉลองกันอยู่



             ร้องเพลงอย่างสุดหรรษาขณะที่คนแคระคนอื่นๆ ก็เล่นเครื่องดนตรีประกอบไปด้วย โดปปี้ยืนอยู่บนไหล่ของสนีซซี่เพื่อที่ว่าเขาจะได้สูงพอๆ ที่จะเต้นรำกับสโนว์ไวท์ได้ ทุกอย่างกำลังไปได้สวยจนสนีซซี่รู้สึกว่าจมูกของเขาเริ่มกระตุกถี่ๆ "ฮะ-ฮะ-ฮะ-ฮาดดดดเช้ยยยย!"

             เช้าวันต่อมา คนแคระทั้งเจ็ดออกไปทำงาน "ตอนนี้อย่าลืมล่ะ ที่รัก ราชินีแก่ผู้มากด้วยเล่ห์เหลี่ยม" พวกเขาพูด "เพราะฉะนั้นระวังคนแปลกหน้าด้วยนะ"
          
             "ฉันไม่เป็นไรจ๊ะ" สโนว์ไวท์พูดอย่างอิ่มเอม และเธอก็จูบโดปปี้ และคนอื่นๆ บนหัวก่อนพวกเขาออกไป



             ราชินีผู้ชั่วร้ายรีบเข้าป่าไป และหยุดเมื่อนางถึงลานที่โล่ง นางได้ยินเสียงอันไพเราะของสโนว์ไวท์ที่กำลังร้องเพลงอยู่ภายในกระท่อมขณะที่เธอทำงานบ้าน
             "อะฮ้า!" ราชินีพูด "เจ้าพวกคนแคระจะออกไปและเธอก็จะอยู่ลำพัง...."



              ราชินีขึ้นไปที่หน้าต่างของกระท่อม และเห็นสโนว์ไวท์กำลังทำงานอยู่ในครัว
              "ทำพายอยู่เหรอ?" หญิงชราพูดด้วยเสียงต่ำ "อยากจะลองชิมแอ๊ปเปิ้ลของฉันมั้ย?" และนางก็ดึงเอาแอ๊ปเปิ้ลพิษออกมา

             สโนว์ไวท์ทั้งประหลาดใจและกลัวนิดหน่อย บรรดาฝูงนกรู้ถึงอันตราย และบินมาที่หญิงชรา พยายามที่จะขับไล่นางออกไป

อธิษฐานตอนนี้สิ...แล้วค่อยกัดคำหนึ่ง"



              สโนว์ไวท์หยิบแอ๊ปเปิ้ลไป หลับตาลง อธิษฐานขอให้เจ้าชายหาเธอพบและกัดหนึ่งคำใหญ่

              ถึงตอนนี้ บรรดาสัตว์ต่างๆ ก็ไปถึงเหมือง พวกมันทั้งจิกทั้งดันคนแคระทั้งเจ็ดแต่พวกหนุ่มน้อยไม่สามารถเข้าใจได้ว่ามีอะไรผิดปกติ จนสสุดท้าย สลีปปี้พูดว่า "หรือว่าราชินีเฒ่าจะจับสโนว์ไวท์ได้แล้ว!"

              "โอ้ ฉันรู้สึกแปลกๆ!" สโนว์ไวท์อ้าปากค้าง กลับเข้าไปที่กระท่อม ราชินีผู้ชั่วร้ายมองดูอย่างหระตือรือร้น สโนว์ไวท์หายใจลึกๆ เข้าเฮือกหนึ่ง แล้วก็ล้มลงบนพื้น แอ๊ปเปิ้ลพิษกลิ้งออกไป


              "ฮา ฮา!" หญิงแก่หัวเราะเสียงต่ำ "เธอจะยังหายใจอยู่-เลือดของเธอจะหนาขึ้น ตอนนี้ข้าจะได้เป็นผู่ที่งดงามที่สุดบนผืนแผ่นดินนี้"

              คนแคระทั้งเจ็ดมาถึงลานโล่ง ในขณะที่หญิงแก่ผู้อัปลักษณ์หายกลับเข้าไปในป่า
              คนแคระทั้งเจ็ดถลาเข้าหาราชินีอย่างรวดเร็ว ฟ้าผ่าลงมาและฝนกระหน่ำตก ราชินีเริ่มปีนหุบเขาหิน "นั่น นางอยู่นั่น! ตามไปเลย!" กรัมปี้ร้อง



               ราชินีปีนป่ายสูงขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายนางไปถึงยอดหน้าผาซึ่งไปไกลกว่านั้นไม่ได้อีกแล้ว "ข้าจะหักกระดูกพวกเจ้าซะ!" นางพูดด้วยเสียงแหลมพลางคว้ากิ่งไม้แห้ง นางพยายามที่จะผลักหินก้อนใหญ่ใส่คนแคระทั้งเจ็ด


                ทันใดนั้น แสงแปลบปลาบของฟ้าผ่าก็ผ่าลงมาตรงแนวหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผา มันแตกและร่วงลง...ลง...ไปในด้านล่างสุดของหุบเขา ทำให้ราชินีถึงแก่ความตาย

                คนแคระทั้งเจ็ดกลับมาที่กระท่อมก็พบ สโนว์ไวท์นอนสลบอยู่บนพื้น ดูเหมือนว่าจะตายแล้ว เธอดูช่างงดงามยิ่งนัก จนทำให้พวกเขาไม่มีกะจิตกะใจฝังนาง ดังนั้นพวกเขาจึงสร้างโลงสีทองและวางเอาไว้ในป่าแทน ทุกๆ วันพวกเขาจะนำดอกไม้ไปให้เธอ และบรรดาสัตว์ป่าทั้งหลายก็จะแวะมาเยี่ยมเยียนเธอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น